วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2557

การแปรรูปไข่เค็มสมุนไพร (ดอง)

          วันที่ 23 สิงหาคม 2557 นางอรชา หมวดเมือง ตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ นางวาสนา โกละกะ ตำแหน่งนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ ดำเนินการฝึกอบรมการแปรรูปไข่เค็มสมุนไพร ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 9 ตำบลปริก อำเภอทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อส่งเสริมกิจกรรมหลังจากการแปรรูปเครื่องแกง โดยมีสูตรการทำไข่เค็ม มีรายละเอียดดังนี้

สูตรไข่เค็มสมุนไพร (ดอง)

ส่วนผสม

1. ไข่เป็ดดิบ (ตามจำนวนที่ต้องการ)
2. น้ำสะอาด
3. เกลือเม็ด
4. เครื่องสมุนไพรต่าง ๆ เช่น ตะไคร้ ใบมะกรูด ใบเตย หอม ขมิ้นชัน ดอกอัญชัน
5. หล้าขาว 2-3 ฝาขวดเหล้า
6. สารส้มก้อนเล็ก ๆ
7. ภาชนะแก้ว และถุงพลาสติก

วิธีทำ

1. ไข่เป็ดดิบ (ไม่แนะนำให้ล้างเพราะเป็นเหตุให้เน่าเสียได้)
2. เครื่องสมุนไพร
     - ตะไคร้ ซอยหยาบ ใส่น้ำเปล่าแล้วนำไปปั่น คั้นน้ำจะให้กลิ่นหอม
     - ใบเตย ซอยหยาบ ใส่น้ำเปล่าแล้วนำไปปั่น คั้นน้ำจะให้กลิ่นหอมและสีเขียว
     - ขมิ้นชัน ซอยหยาบ ใส่น้ำเปล่าแล้วนำไปปั่น คั้นน้ำจะให้กลิ่นหอมและสีเหลือง
     - ดอดอัญยัน นำดอกใส่ในน้ำต้มเกลือได้เลย จะให้สีน้ำเงิน
3. เกลือเม็ดใหญ่และน้ำในอัตราส่วน 1 : 4 (เกลือ 1 ส่วนต่อน้ำ 4 ส่วน) ใส่น้ำคั้นสมุนไพร ตั้งไฟต้มจนเกลือเม็ดละลายหมด ทิ้งไว้ให้เย็นสนิท จากนั้นเทเหล้าขาวใส่ลงไป 2-3 ฝาเหล้า ผสมให้เข้ากัน
4. นำไข่เป็ดดิบที่พักไว้ใส่ภาชนะแก้ว หรือภาชนะอื่นที่จะใช้ดองไข่ จากนั้นเทน้ำเกลือลงไปให้ท่วมไข่ (โดยกรองน้ำเกลือด้วยกระชอนให้สะอาด) แล้วหาภาชนะกดทับไข่ไว้ไม่ให้ใข่ลอยเหนือน้ำเกลือ หรือเอาน้ำเกลือมาบางส่วนมาใส่ถุงพลาสติก (รัดปากถุงด้วยตัวมันเอง อย่ารัดหนังยาง) เพื่อกดให้ไข่จมอยู่ในน้ำตลอดป้องกันไข่เน่า ปิดฝาให้สนิทดองทิ้งไว้ 3 สัปดาห์ สำหรับไข่เค็มต้ม
4.ถ้าต้องการทำไข่ดาวเค็มทิ้งไว้ 7 วัน แล้วนำมาทอด
5.เมื่อครบตามกำหนดเวลา 3 สัปดาห์ นำไข่ที่ดองไว้มาต้มใช้เวลาราว 20 นาที ไฟอ่อน (ถ้าไฟแรงจะทำให้เปลือกไข่แตกได้) โดยก่อนต้มไข่ให้ใส่สารส้มลงไปหนึ่งก้อนเล็ก เพื่อให้ไข่ที่ต้มมีนวลขาวเกาะสวยงาม


รูปภาพ










                                                                                            

                                                                                             รายงานโดย   :  นางอรชา หมวดเมือง
                                                                                             ภาพข่าวโดย :   นางสาวรุจิรา  ทองบางหรง
<< ย้อนกลับ

ไม่มีความคิดเห็น: