กรมส่งเสริมการเกษตร โดย..ท่านอธิบดี โอฬาร พิทักษ์ ได้มีนโยบายปี ๒๕๕๘ ให้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามระบบ MRCF ต่อเนื่องจากปี ๒๕๕๗ เพื่อให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม โดยมุ่งเน้นการพัฒนาเชิงคุณภาพ ดำเนินการให้เชื่อมโยงกับนโยบาย Zoning ของรัฐบาลและของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้มี “ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร” เป็นกรณีตัวอย่างแต่ละพื้นที่
ในปี ๒๕๕๗ ที่ผ่านมานั้น กรมส่งเสริมการเกษตรมีนโยบายในการปรับระบบการทำงานเพื่อให้เห็นบทบาท ตัวตน และอัตลักษณ์ของนักส่งเสริมการเกษตร ที่ชัดเจนในฐานะของผู้จัดการพื้นที่และผู้นำการเปลี่ยนแปลง ภายใต้แนวคิด “การเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีที่สุด” หรือ Chang to the Best และได้เริ่มใช้ระบบส่งเสริมการเกษตรมิติใหม่ คือ ระบบ MRCF
ปี ๒๕๕๘ นั้น กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดนโยบาย ๓ ประเด็น คือ…
๑. เร่งรัดการดำเนินงานสำคัญตามนโยบาย
๒. ขับเคลื่อนระบบ MRCF ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
๓. พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการองค์กร
ประเด็นที่ ๑ นั้น เร่งรัดการดำเนินงานสำคัญตามนโยบาย
๑.๑ จะเร่งรัดงานสำคัญตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รัฐบาล และกระทรวงเกษตร เช่น การช่วยเหลือดูแลเกษตรกร การเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพการผลิต การจัดตั้งศูนย์บริการประชาชนด้านการเกษตร การปรับโครงสร้างการผลิตสินค้าเกษตร การจัดตั้ง “ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร” การส่งเสริมตลาดเกษตรกร (Farmer Market) การพัฒนาศูนย์ข้อมูลเกษตรกรแห่งชาติ ฯลฯ
๑.๒ ขยายผลโครงการพระราชดำริ เกษตรกรรมยั่งยืน และเศรษฐกิจพอเพียง
๑.๓ บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ
๑.๔ ทำงานโดยยึดหลัก “ทำก่อน ทำจริง ทำทันที เกิดผลสัมฤทธิ์ และยั่งยืน” ตามนโยบายรัฐบาล
ประเด็นที่ ๒ ขับเคลื่อนระบบ MRCF ให้เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
๒.๑ พัฒนาระบบบริหารจัดการงานส่งเสริมการเกษตรในพื้นที่ โดยยึดพื้นที่เป็นศูนย์กลางของการพัฒนา มองภาพ “พื้นที่ – คน – สินค้า” เข้าด้วยกัน และใช้ ระบบ MRCF เพื่อชี้เป้า ให้หน่วยงานอื่น ๆ เข้าไปดำเนินงานในพื้นที่ได้
๒.๒ เพื่อบรรลุงานส่งเสริมงานส่งเสริมการเกษตร จึงมุ่งเน้นการดำเนินงาน ๕ Smarts คือ
๑) Smart Officer ๒) Smart Office ๓) Smart Farmer ๔) Smart Group ๕) Smart Product
๒.๓ พัฒนาศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยให้สอดคล้อง Zoning
๒.๔ พัฒนางานพื้นฐานสำคัญของกรมส่งเสริมการเกษตรให้เกิดผลสำเร็จ เช่น อาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) กลุ่มยุวเกษตรกร กลุ่มแม่บ้านเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน การบริหารจัดการผลไม้ การใช้ปุ๋ยอินทรียฺและปุ๋ยสั่งตัดเพื่อลดต้นทุนการผลิต และการบริหารจัดการศัตรูพืช
ประเด็นที่ ๓ พัฒนาศักยภาพการบริหารจัดการองค์กร
๓.๑ เพิ่มบทบาทของเขตและศูนย์ปฏิบัติการให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๓.๒ พัฒนาองค์กรและบุคลากรให้มีสมรรถนะสูงขึ้นและมีขวัญกำลังใจ
๓.๓ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการโครงการและงบประมาณ
๓.๔ ประชาสัมพันธ์ในเชิงรุกเพื่อเสริสสร้างความเข้าใจ เผยแพร่ผลงานและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสาธารณชน
ชาญวิทย์ สมศักดิ์
นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ
กลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ
<< กลับหน้าหลัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น